การขับเคลื่อนการลงทุนจากต่างประเทศของไทยภายใต้สงครามการค้าอันเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีนย่อมเกิดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระดับโลก และก่อประโยชน์แก่ ประเทศที่เป็น “ฐานการผลิต” แหล่งที่ตั้งโรงงานซึ่งย้ายจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า
การปรับเปลี่ยนทิศทางของห่วงโซ่การผลิตระหว่างประเทศมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ภายหลังที่สงครามการค้าทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น พบว่า มีหลายบริษัทที่เตรียมย้ายฐานการผลิตมายังไทยในหลายพื้นที่
อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ในช่วงของการตัดสินใจในการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการลงทุนในประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศไทย และมีบริษัทอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปสร้างฐานการผลิตใหม่ ณ พื้นที่ใด ดังนั้น การปรับตัวของห่วงโซ่การผลิตระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยในการดึงดูดผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าให้เข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะในสาขาการผลิตสำคัญๆ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เพื่อเพิ่มแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รวบรวมข้อมูลบริษัทที่เตรียมย้ายฐานการผลิตมาไทยในระดับความเป็นไปได้ต่างๆ ไว้ดังต่อไปนี้
แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตดังกล่าว ยังมีผลให้มีงานก่อสร้างต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น ทั้ง งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน งานก่อสร้างโรงงาน และงานระบบต่างๆ
#