AREA แถลง ฉบับที่ 240/2560: วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560
 
         เราพยายามจะเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่มียกเว้นสารพัด กลุ่มที่ยกเว้นกลุ่มหนึ่งก็คือส่วนราชการต่างๆ ทำให้ส่วนราชการต่างๆ พยายามเก็บที่ดิน "ชิ้นปลามัน" ไว้โดยไม่ใช้ประโยชน์ นี่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่พึงพิจารณา 
         ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และได้พาคณะเจ้าหน้าที่ราชการไปดูงานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2545 ให้ข้อสังเกตว่าส่วนราชการต่างๆ ควรจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วย เพื่อความเป็นธรรมในสังคม  แต่ในความเป็นจริงสำหรับประเทศไทยก็คือ แม้แต่ค่าน้ำค่าไฟ ส่วนราชการบางแห่ง โดยเฉพาะทหาร ก็ยังติดหนี้ด้วยซ้ำไป (http://bit.ly/2rwrJ29
         กรณีที่เห็นเด่นชัดประการหนึ่งก็คือที่ตั้งของโรงพยาบาลโรงงานยาสูบบนถนนสาทรใต้ ปรากฏว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นที่ราชพัสดุ แต่ใช้โดยโรงงานยาสูบโดยทำเป็นโรงพยาบาล  แต่ต่อมาภายในโรงงานยาสูบก็ทำโรงพยาบาลขนาดใหญ่โต และแม้แต่ตัวโรงงานยาสูบก็ต้องย้ายออกไปนอกเมือง  ทำให้ผู้ใช้บริการคงต้องน้อยลงตามลำดับ  แต่ที่ว่างตรงบริเวณนั้น โรงงานยาสูบก็ไม่ยอมคืนให้กับราชพัสดุเพื่อใช้ประโยชน์เพื่อประเทศชาติในทางอื่นต่อไป  ยังค้างคาราคาซังอยู่เช่นนี้ 
         กรณีนี้หากมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับโรงงานยาสูบ โดยเก็บตามราคาตลาด เช่น 2% ของมูลค่า ที่ดินตรงนั้นเป็นเงินตารางวาละ 1.5 ล้านบาท และสมมติให้มี 5 ไร่ หรือ 2,000 ตารางวา ดังนั้นโรงงานยาสูบก็อาจต้องเสียภาษีปีละ 60 ล้านบาท หากครอบครองไว้เช่นนั้น  หากมีการเก็บภาษีจริงแบบในต่างประเทศเช่นนี้ โรงงานยาสูบ ก็คงต้อง "คาย" ที่ดินแปลงนี้ออกมาเพื่อใช้ประโยชน์ต่อชาติและประชาชนต่อไป  คงไม่กล้าครอบครองไว้    เปล่า ๆ ปลี้ ๆ เช่นนี้ 
         อย่างที่ดินเขตทหารใจกลางเมืองมีมากมาย  อาวุธยุทโธปกรณ์ของไทยก็ทันสมัยไปมากแล้ว  หน่วยทหารไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมือง  สามารถย้ายออกนอกเมืองได้ และยังป้องกันปัญหาคลังแสงระเบิดที่อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวด้วย หน่วยราชการต่าง ๆ ก็สามารถย้ายออกได้ เช่น โรงงานยาสูบ ค่ายทหาร หรืออื่น ๆ  โดยเฉพาะหากที่ดินแปลงใดที่ครอบครองไว้เกินความจำเป็น และใช้เพื่อให้เช่าเพื่อการพาณิชย์ ก็ควรมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเช่นที่จะเก็บกับประชาชนทั่วไปเช่นกัน  หาไม่ที่ดินต่าง ๆ ของทางราชการก็จะปล่อยไว้โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร  ประเทศชาติและประชาชนเสียหาย และเสียหายมานานแล้วโดยไม่ได้แก้ไข 
         เราต้องพิจารณากันตามราคาตลาด  ที่ดินใจกลางเมืองแสนแพง ควรเน้นการพัฒนาในเชิงพาณิชย์  การนี้ไม่ใช่การกระจุกตัวในเมือง  แต่ 
         1. เป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพของเมือง ให้ผู้คนสามารถมาติดต่องานต่าง ๆ ในใจกลางเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในที่เดียวกันหรือที่ใกล้ๆ กัน  คนมาจากต่างจังหวัดหรือชานเมืองในแต่ละทิศทางก็จะสามารถมาติดต่องานได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นต้น 
         2. เป็นการลดทอนการกระจายกันออกคนละทิศคนละทางเช่นที่เห็นอยู่  และพอกระจายออกไปด้านนอกอย่างไร้ทิศผิดทาง ก็สร้างสถานที่ราชการใหญ่โตโอฬารกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เสียอีก 
         เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องคิดใหม่เพื่อประเทศชาติและประชาชน
 
ภาพประกอบ ตัวอย่างการใช้ที่ดินที่ขาดประสิทธิภาพของโรงพยาบาลยาสูบ ถนนสาทรใต้ 
ภาพประกอบ 1- https://csrthai.files.wordpress.com/2017/06/60-240-1.jpg 
 
 
ผู้แถลง: 
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.thwww.facebook.com/dr.sopon4) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน