AREA แถลง ฉบับที่ 338/2560: วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2560 

         มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้จัดทำราคาค่าก่อสร้างอาคารมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นการดำริของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ตั้งแต่สมัยที่เป็นกรรมการสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย โดยดำเนินการครั้งแรกในปี 2543 และ ดร.โสภณ ก็เป็นผู้รับผิดชอบงานนี้มาโดยตลอด แต่ในช่วงปี 2556 สมาคมฯ ไม่ได้จัดทำราคาค่าก่อสร้างเพิ่มเติม ดร.โสภณ จึงรับดำเนินการในนามของมูลนิธิฯ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ สมาคมฯ ได้กลับมาดำเนินการเพิ่มเติมอีก แต่คงมีการปรับปรุงราคาเป็นรายปี หรือเป็นรายสะดวก มูลนิธิฯ จึงยังดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการประเมินค่าทรัพย์สิน และสำหรับประชาชน และนักลงทุนทั่วไปได้ใช้ต่อไป 

        ในการดำเนินการของมูลนิธิฯ มูลนิธิฯ ได้แต่งตั้งให้ นายสุรพงษ์ ตรีสุกล เป็นประธานคณะทำงาน และได้ดำเนินการศึกษาข้อมูลจากทางราชการและภาคสนามมาดำเนินการจัดทำราคาค่า ก่อสร้าง และต่อไปนี้เป็นรายงานการเปลี่ยนแปลงราคาค่าก่อสร้างล่าสุด 

         ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้                   6.58% 
         ซิเมนต์                                    12.60% 
         ผลิตภัณฑ์คอนกรีต                   16.29%
         เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก          21.10% 
         กระเบื้อง                                    6.87%
         วัสดุฉาบผิว                                3.68%
         สุขภัณฑ์                                    2.16%
         อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา            13.02% 
         วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ                      17.69%
         รวม                                            100% 

         สำหรับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 -มิถุนายน 2560 (ไตรมาสที่ 2) สรุปว่ามีการลดลงของวัสดุต่างๆ เฉลี่ย -0.98% โดยปัจจัยสำคัญก็คือ เหล็กลดลง 4.2% อุปกรณ์ไฟฟ้าลดลง 0.3% และวัสดุก่อสร้างอื่นลดลง 1.6% ส่วนวัสดุที่เพิ่มขึ้น ไม้เพิ่มขึ้น 0.4% ซีเมนต์ เพิ่มขึ้น 0.9% ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เพิ่มขึ้น 2.2% โดยมีรายละเอียดเป็นดังนี้: 

         ดัชนีรวม                       -1.10% 
         ไม้                                0.40% 
         ซีเมนต์                         0.90% 
         ผลิตภัณฑ์คอนกรีต        2.20% 
         เหล็ก                          -4.20% 
         กระเบื้อง                      0.00% 
         วัสดุฉาบผิว                  0.00% 
         สุขภัณฑ์                      0.00% 
         อุปกรณ์ไฟฟ้า              -2.40% 
         วัสดุก่อสร้างอื่นๆ          -1.60% 

         ค่าวัสดุข้างต้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่ราคาค่าก่อสร้างยังประกอบด้วยค่าแรง และภาษีและค่าดำเนินการต่าง ๆ ดังนั้นค่าก่อสร้างที่แท้จริง ลดลงเพียง 0.59% ในไตรมาสที่ 2/2560 โดยมีรายละเอียดดังนี้: 

         1. ค่าวัสดุ                                    60%           -0.98%         60.62% 
         2. ค่าแรง                                     20%                0%          20.00% 
         3. กำไร ภาษีและค่าดำเนินการ      20%                 0%          20.00% 
                                                        100.00%        99.41% 
         สรุป                                           -0.59% 

         โดยสรุปแล้วการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของทางราชการของเดือนมิถุนายน 2560 มีผลออกมาดังนี้: 

         สรุปการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ของเดือน มิถุนายน60 
         1. พิจารณาโดยเทียบเคียงกับเดือน มีนาคม 60 (มีนาคม 60- มิถุนายน 60) 
         2. จากการเทียบดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือน มีนาคม 60-มิถุนายน 60 ปรากฎราคาวัสดุก่อสร้างเมื่อวิเคราะห์แล้ว ปรับลดลง -1.10% โดยราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับลดลง จากกลุ่มวัสดุเหล็ก วัสดุอื่นๆ ไฟฟ้า ราคาปรับลดลง (โดยกลุ่มเหล็ก ราคาลดลงมากสุด ดูได้จากดัชนีข้างต้น) ส่วนกลุ่ม ไม้ ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ปรับเพิ่มขึ้น เมื่อพิจารณารวมราคาวัสดุทุกกลุ่ม ภาพรวมราคาค่าวัสดุปรับลดลง -0.98% 
         3. ค่าแรงงาน ไม่มีการปรับเพิ่ม 
         4. กำไรภาษี ค่าดำเนินการ พิจารณาเท่าเดิม ไม่มีการปรับเพิ่ม 
         5. เมื่อวิเคราะห์ทั้งค่าวัสดุ และค่าแรงงาน กำไรภาษี ค่าดำเนินการ ทำให้ภาพรวมราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับลดลง -0.59% 

         รายละเอียดของราคาค่าก่อสร้างอาคารเป็นดังนี้:
  
ผู้แถลง: 
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน