นายวิษณุ เครืองาม (16 พฤษภาคม 2561/ทำเนียบรัฐบาล) รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมผลงานด้านกฎหมายในช่วง 4 ปีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า มีอะไรออกมามาก ถ้าดูที่ปริมาณ ก็มีร่างกฎหมายที่ออกมาแล้วกว่า 300 ฉบับ เฉลี่ยปี 100 ฉบับซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก แต่ขอให้สนใจเรื่องคุณภาพดีกว่า เพราะแม้มีปริมาณมากที่แสดงถึงความขยัน แต่คุณภาพอาจจะดีหรือไม่ดีบ้าง

กฎหมายที่ออกมามีคุณภาพไม่ใช่น้อย อาทิ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ที่บังคับใช้และออกฤทธิ์แล้ววันนี้ มีการฟ้องร้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ปฏิบัติตามหรือเพิกเฉย ละเลย รวมถึงกฎหมายที่อนุวัติตามอนุสัญญาที่ประเทศไทยทำกับต่างประเทศ โดยเป็นการออกกฎหมายลูกตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ ตรงนี้ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเรื่องความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจและการจัดอันดับในเรื่องอื่นๆ ดีขึ้น ขณะเดียวกันถือเป็นสิ่งที่ประเทศได้ประโยชน์ และประชาชนได้รับผลดีทางอ้อมด้วย

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีผลงานเรื่องกฎหมายในเชิงปฏิรูปโดยตรงเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ อาทิ พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลภาคภูมิใจมาก เพราะเป็นกองทุนที่มาจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือพยานที่มีฐานะยากจนในการดำเนินคดี และการขอประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราว

อีกทั้ง เรากำลังจะมีมาตรการออกมาอีกที่ไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปของกฎหมาย เช่น การอำนวยความสะดวกในการติดต่อหน่วยราชการโดยไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน การตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (วันสต๊อป เซอร์วิส) ที่ให้บริการรับการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การใช้เทคโนโลยีเข้ามาด้วย เช่น การทำเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) ที่จ.ภูเก็ต เป็นต้น

นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ไปรวบรวมงานการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรม เพื่อนำเสนอต่อสายตาประชาชนในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมแต่งตั้งคณะกรรรมการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน ซึ่งมีนายบวรศักดิ์เป็นประธาน เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในการเดินหน้าออกกฎหมายในบางเรื่องที่บางกระทรวงไม่สามารถเป็นเจ้าภาพได้ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่มีการบูรณาการการทำงานจากหลายกระทรวง จึงต้องให้คณะกรรมการชุดนี้เข้าไปทำงาน โดยไม่เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เพราะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เป็นเพียงคนกำหนดแนวทางว่าจะปฏิรูปกฎหมายด้านใดเท่านั้น แต่คณะกรรมการปฏิรูปเร่งด่วน คือ ลงมือทำงานทันที

#