ศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน หรือ ฮิลล์ อาเซียน (Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN: HILL ASEAN) คลังสมองทางวิชาการซึ่งก่อตั้งโดยบริษัท ฮาคูโฮโด อิงค์ บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น แถลงผลวิจัยล่าสุดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ในหัวข้อ “The Rise of Conscious ASEANs: Why should you CARE?” (บริโภคอย่างใส่ใจ ไลฟ์สไตล์แนวใหม่ของคนอาเซียน) เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค หรือ sei-katsu-sha สายพันธ์ใหม่ในอาเซียนที่ให้ความสนใจกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงเสนอแนวทางการตลาดที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มนี้ ในงานสัมมนา ASEAN Sei-katsu-sha Forum 2020   

นางสาวนัฐกาญจน์ วัฒนมงคลศิลป์ ผู้อำนวยการสายงานวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สปา-ฮาคูโฮโดจำกัด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยฮาคูโฮโดให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตของผู้คนในอาเซียน ดังนั้นในทุกๆ ปี เราจะทำการวิจัยในหัวข้อที่สังคมกำลังให้ความสนใจหรืออยู่ในเทรนด์ของโลก และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน หัวข้อการวิจัยในปีนี้คือ The Rise of Conscious ASEANs ซึ่งเป็นการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคและไลฟ์สไตล์แนวใหม่ของผู้บริโภคกลุ่มที่เราเรียกว่า Consciouslites โดยเป็นการรวมกันของคำว่า Conscious กับ Socialite ผู้บริโภคกลุ่มนี้เลือกจับจ่ายซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับในตอนนี้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้คนหันมาเลือกสรรแบรนด์สินค้าและการบริการอย่างพิถีพิถันและรอบคอบมากขึ้น

ฮิลล์ อาเซียน ได้วิเคราะห์ไลฟ์สไตล์ มุมมอง และพฤติกรรมการซื้อของคนกลุ่มนี้ไว้ดังนี้  

 

 

The Consciouslites

หมายถึง ผู้บริโภคที่มีวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (Conscious Lifestyles*) ต้องการสร้างผลกระทบในทางที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรวม ผ่านการกระทำต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และการเลือกใช้แบรนด์ต่างๆ 

Conscious Lifestyles:

หมายถึง วิถีชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคที่มีการพิจารณาว่าการกระทำของตนจะเป็นผลดีต่อตนเอง ผู้อื่น สังคมและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ รวมถึงมีความใส่ใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ บริการ และแบรนด์ต่างๆ ที่มีแนวคิดสอดคล้องกับวิถีชีวิตของตน

 

 

 

 

·       ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ตระหนักรู้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และนำไปปฏิบัติจริง

คนอาเซียนประมาณร้อยละ 90 รู้จักคำว่า Conscious Lifestyle หรือวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และเกือบร้อยละ 80 นำความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมมาปฏิบัติจริงในการดำเนินชีวิตประจำวัน

 

·       มีความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในระดับสูง (Base: Conscious ASEANs)

Consciouslites ในอาเซียนร้อยละ 86 ระบุว่าตนนำความใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง (ทำโดยไม่สนใจว่าคนอื่นทำอย่างไรหรือคิดอย่างไร รวมถึงทำและชักชวนให้ผู้อื่นทำด้วย) 

 

·       ผลกระทบทางสังคมมีผลต่อการเลือกแบรนด์ (Base: Conscious ASEANs)

กว่าร้อยละ 80 ของ Consciouslites ในอาเซียนให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสังคม โดยร้อยละ 85 ระบุว่าอยากให้มีแบรนด์จำนวนมากขึ้นที่สนับสนุนวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และส่งผลในทางที่ดีต่อสังคม และร้อยละ 82 ระบุว่าตนจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์ที่สนับสนุนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

 

·       เต็มใจจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคม (Base: Conscious ASEANs)

ร้อยละ 81 ของ Consciouslites ในอาเซียนระบุว่าตนเต็มใจจ่ายแพงขึ้นเพื่อสินค้าสำหรับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

นายกฤตเมธ วุฒิเมธีกุล นักวางแผนกลยุทธ์ระดับอาวุโส  บริษัท เดลฟิส ฮาคูโฮโด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผู้บริโภคในกลุ่ม Consciouslites หรือ conscious consumer มีไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจผู้อื่นมากขึ้น รวมไปถึงการใส่ใจและตระหนักรู้ถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ถ้าจับตามองประชากรในกลุ่มอาเซียนเราจะเห็นได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากใน 3 ประเด็นด้วยกัน 1. การมองเห็นปัญหาที่มีอยู่จริงและกระทบต่อชีวิตของตนเองและคนรอบข้าง 2. บุคลิกหรือนิสัยของคนอาเซียนจะค่อนข้างแตกต่างจากภูมิภาคอื่น จะเน้นในเรื่องของการแชร์ หรือมุ่งเน้นการทำความดีเพื่อช่วยสังคมและแชร์ผ่านสื่อออนไลน์เท่านั้น จะไม่สร้างความแตกแยกหรือก่อประเด็นไปโจมตีผู้อื่น และ 3. พฤติกรรมการบริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปจากการทำดีแบบเดิมๆ แต่เกิดเป็นมาตรฐานใหม่ในการทำดี เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไข โดยรักษาสมดุลระหว่างการรักษ์โลกกับความสบายใจส่วนบุคคล รณรงค์ด้วยความสนุกสนานไม่เคร่งเครียด เคารพความเห็นต่าง และไม่กดดันตัวเองและผู้อื่นมากเกินไป งานวิจัยของฮิลล์ อาเซียน แสดงให้เห็นว่า วิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อและการเลือกแบรนด์ของผู้บริโภค และมีพลังในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ

 

ทั้งนี้ ผู้บริโภคกลุ่มนี้ไม่ได้มองว่าผู้ประกอบการหรือแบรนด์เจ้าของสินค้าเป็นผู้ร้ายที่ทำให้เกิดปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม แล้วลงโทษด้วยการตำหนิติเตียน (shaming) และไม่ซื้อสินค้า (boycott) แต่มองว่าผู้ประกอบการธุรกิจสามารถเป็นพันธมิตร และร่วมกันแก้ไขปัญหาได้ จึงแสดงออกด้วยการอุดหนุนซื้อสินค้า (buycott) ของแบรนด์และผู้ประกอบการที่พยายามช่วยแก้ปัญหา สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงชักชวนให้ผู้อื่นซื้อเช่นเดียวกัน

 

นางสาวพร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้จัดการแผนกวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮิลล์ เอเชีย จำกัด ได้ให้คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการปรับตัวให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้ว่า พฤติกรรมของ Consciouslites ในภูมิภาคอาเซียนที่รักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมจะแสดงพลังผ่านการซื้อสินค้าและเลือกจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการจากแบรนด์ต่างๆ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างจาก Consciouslites ในโลกตะวันตก อีกทั้งมุ่งเน้นในเรื่องของการสนับสนุนทัศนคติเชิงบวกและความสนุกสนาน นี่จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการและแบรนด์ในการสร้างการยอมรับและชนะใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ ด้วยการเปลี่ยนจากการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) หรือ CSR มาเป็น CSI (Conscious and Sustainable Initiative) ที่มีความต่อเนื่องมากกว่าและเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร อีกทั้งสามารถพัฒนาเป็นข้อได้เปรียบขององค์กรและใช้ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับภาคส่วนต่างๆ ในสังคม โดยมีแนวทางการปรับตัวด้านการตลาดของแบรนด์และผู้ประกอบการธุรกิจใน 3 ด้าน ดังนี้

 

1.      อุดมการณ์ของแบรนด์ (Brand Cause)

Identify the right issue: แบรนด์ไม่จำเป็นต้องพูดถึงทุกประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ให้พิจารณาเลือกประเด็นปัญหาหรือคุณค่าเพียงอย่างเดียวมาเป็นสิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญ และเจาะจงทำเรื่องนั้นอย่างต่อเนื่องจริงจัง

Stand up to stand out: แบรนด์ควรยืนหยัดเพื่อบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่แบรนด์ต้องการขาย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ และช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

 

2.      การแสดงออกของแบรนด์ (Brand Expression)

Greenovative action: แบรนด์ควรกระตุ้นให้ผู้คนหันมามีวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน หรือมีลักษณะคล้ายเกม ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีแล้ว ยังทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดีด้วย

Make it fun and inspiring: Consciouslites ในอาเซียนชอบการสื่อสารในเชิงบวก แบรนด์จึงต้องเน้นย้ำการสื่อสาร ให้มีความสนุกสนานเพลิดเพลิน

 

3.      ความร่วมมือกับพันธมิตร (Brand Collaboration)

Partnering with stakeholders: ผู้บริโภคมองว่าผู้มีอิทธิพลทางความคิด (key opinion leader) หรือ KOL และผู้นำชุมชนต่างๆ มีความน่าเชื่อถือและเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ควรได้รับการสนับสนุน การร่วมมือกับ KOL หรือผู้นำชุมชนที่เหมาะสม จะทำให้แบรนด์เป็นที่ชื่นชมและสนับสนุนมากขึ้น

Empowering communities: แบรนด์ควรช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชนและสนับสนุนแนวทางของชุมชนในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ได้ที่เว็บไซต์ http://hillasean.com

 

ข้อมูลอ้างอิง: ผู้บริโภคที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน  

ความตระหนักรู้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และการนำไปปฏิบัติจริง

·       ประมาณร้อยละ 90 ของคนอาเซียนรู้จักคำว่า Conscious Lifestyle หรือวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และเกือบร้อยละ 80 นำความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมมาปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน

·       เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น มีผู้บริโภคประมาณร้อยละ 40 ที่มีความตระหนักรู้เรื่องนี้ และประมาณร้อยละ  25 ที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากในญี่ปุ่นนั้น พฤติกรรมเช่นการแยกขยะและการรีไซเคิล เป็นสิ่งที่ผู้คนทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว จึงไม่ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่แสดงถึงความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

* Conscious Lifestyles:

หมายถึง วิถีชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคที่มีการพิจารณาว่าการกระทำของตนจะเป็นผลดีต่อตนเอง ผู้อื่น สังคมและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ รวมถึงมีความใส่ใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ บริการ และแบรนด์ต่างๆ ที่มีแนวคิดสอดคล้องกับวิถีชีวิตของตน

คำถาม: คุณรู้จักวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม (Conscious Lifestyles) หรือไม่

cid:image013.png@01D64B1E.FF2CDA80

ระดับของการกระทำที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

·       Consciouslites ในอาเซียนร้อยละ 86 ระบุว่าตนนำความใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่างจริงจัง (ทำโดยไม่สนใจว่าคนอื่นทำอย่างไรหรือคิดอย่างไร รวมถึงทำและชักชวนให้ผู้อื่นทำด้วย)

·       เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น Consciouslites ร้อยละ 72 ระบุว่าตนกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยความใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง (น้อยว่าอาเซียนร้อยละ 14)

คำถาม: ทัศนคติที่คุณมีต่อวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (Conscious Lifestyles) เป็นอย่างไร

cid:image014.png@01D64B1E.FF2CDA80

ที่มา: ความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าตนรู้จักและใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม

ความสัมพันธ์ระหว่างผลกระทบทางสังคมกับการเลือกแบรนด์

ส่งผลในทางที่ดีต่อสังคม” เป็นหลักสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกแบรนด์

·       กว่าร้อยละ 80 ของ Consciouslites ในอาเซียนให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสังคม โดยร้อยละ 85 ระบุว่าอยากให้มีแบรนด์จำนวนมากขึ้นที่สนับสนุนวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และส่งผลในทางที่ดีต่อสังคม และร้อยละ 82 ระบุว่าตนจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์ที่สนับสนุนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม  

cid:image015.png@01D64B1E.FF2CDA80

คำถาม: คุณคำนึงถึงเรื่องใดบ้างเวลาเลือกแบรนด์

cid:image018.png@01D64B1E.FF2CDA80

ที่มา: ความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าตนรู้จักและใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม

ความเต็มใจในการจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคม

Consciouslites จะไม่ลังเลที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคม

·       ร้อยละ 81 ของ Consciouslites ในอาเซียนระบุว่าตนเต็มใจจ่ายแพงขึ้นเพื่อสินค้าสำหรับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

·       งานวิจัยชี้ว่าผู้บริโภคที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมร้อยละ 77 ในญี่ปุ่นไม่ขัดข้องถ้าต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคมจึงคิดเป็นค่าเฉลี่ยรวมของอาเซียนและญี่ปุ่นที่เกือบร้อยละ 80  

คำถาม: คุณยอมจ่ายแพงขึ้นมากแค่ไหนเพื่อซื้อสินค้าสำหรับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

cid:image020.png@01D64B1E.FF2CDA80

ที่มา: ความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าตนรู้จักและใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม

ข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับการสำรวจความคิดเห็นเรื่องวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

วิธีการสำรวจ:                          สำรวจความคิดเห็นทางอินเทอร์เน็

ประเทศที่มีการสำรวจ:            ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น

ผู้ตอบแบบสำรวจ:                   ชายและหญิงรวม 4,500 คน อายุ 20-49 ปี

(ในไทย 900 คน และประเทศอื่นๆ ประเทศละ 600 คน)

ระยะเวลาการสำรวจ:              เดือนสิงหาคม-กันยายน 2562

เกี่ยวกับศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN หรือ HILL ASEAN)

ศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน หรือ ฮิลล์ อาเซียน (HILL ASEAN) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 เพื่อเป็นคลังสมองทางวิชาการภายในกลุ่มบริษัท ฮาคูโฮโด ที่เน้นการศึกษาวิจัยผู้คนในชาติอาเซียน ตามแนวคิด sei-katsu-sha และได้เริ่มเข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 โดยมุ่งเน้นการนำความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ ASEAN sei-katsu-sha มาใช้ในการสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดของกลุ่มลูกค้า  

ชื่อองค์กร:                         Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN

กรรมการผู้จัดการ:              Farhana E. Devi Attamimi

ที่ตั้ง:                                กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

การวิจัย และกิจกรรมอื่นๆ:   วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้คนในกลุ่มประเทศอาเซียนจากมุมมองของนักวิจัยในอาเซียนรวมถึงจัดงานสัมมนาในกลุ่มประเทศอาเซียน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ได้ที่เว็บไซต์ของ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN  http://hillasean.com

เกี่ยวกับบริษัท ฮาคูโฮโด

บริษัท ฮาคูโฮโด ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2438 เป็นเอเจนซีโฆษณาและประชาสัมพันธ์ครบวงจรที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นบริษัทหลักของกลุ่มบริษัท Hakuhodo DY Group ฮาคูโฮโดเป็นเอเจนซีโฆษณายักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของโลก จากการจัดอันดับของนิตยสาร Advertising Age ในปี พ.ศ. 2562

กลุ่มฮาคูโฮโดมีสำนักงานอยู่ใน 20 ประเทศ และมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 10,000 คนทำงานอยู่ในญี่ปุ่นและต่างประเทศปัจจุบันฮาคูโฮโดกำลังเร่งเครื่องสร้างรากฐานที่เข้มแข็งในประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เพื่อขยายธุรกิจไปทั่วทั้งภูมิภาค

          ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ sei-katsu-sha เป็นรากฐานสำคัญที่ฮาคูโฮโดใช้ในการคิดวิเคราะห์ วางแผน และสร้างแบรนด์  โดยแนวคิด sei-katsu-sha เชื่อว่า ผู้บริโภคไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่ทำหน้าที่ทางเศรษฐกิจด้วยการจับจ่ายใช้สอย แต่พวกเขามีชีวิตจิตใจ และเป็นปัจเจกบุคคลที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน โดยฮาคูโฮโดได้เริ่มใช้คำนี้มาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 อันเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่น ที่จะศึกษาให้เข้าใจวิถีชีวิตของผู้บริโภคอย่างรอบด้าน 360 องศา

          ฮาคูโฮโดมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านความคิดสร้างสรรค์ โดยเคยคว้ารางวัล Grand Prix ถึง 2 ครั้งจากเทศกาลครีเอทีฟที่เมืองคานส์ หรือ Cannes Lions International Festival of Creativity และยังเป็นเอเจนซีเพียงหนึ่งเดียว ที่มีสำนักงานใหญ่ในเอเชีย ที่ได้รับรางวัล Special Lion เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีเทศกาล Cannes Lion ในปี พ.ศ. 2546

          ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.hakuhodo-global.com