อุตฯ ผนึกกำลัง 4 องค์กรยักษ์ใหญ่ ขานรับนโยบาย BCG

ผลักดันมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ภาคอุตสาหกรรม ร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อม

 

กระทรวงอุตฯ ขานรับนโยบายรัฐบาลด้าน BCG จับมือ 4 องค์กรยักษ์ใหญ่ของไทย ก.ล.ต.   ส.อ.ท. – จีซี และ เอสซีจี เซ็นเอ็มโอยู เดินหน้าผลักดันมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ภาคอุตสาหกรรม   เตรียมเดินสายให้ความรู้แก่ทุกภาคส่วนทั่วประเทศเร็วๆ นี้ 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)ไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบายรัฐบาลด้าน BCG ระหว่าง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ จีซี และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก ที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ และนำมาเป็นเครื่องมือในการกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุในการทำลายสิ่งแวดล้อมรัฐบาลจึงได้ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG โมเดล โดยบูรณาการการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมในสามมิติพร้อมกัน ได้แก่ Bio Circular และ Green เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายดังกล่าว ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการ โดยเฉพาะ สมอ. ซึ่งเป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติที่กำกับดูแลและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรม นำมาตรฐานไปใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า และรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศได้ดำเนินการกำหนดมาตรฐานตามนโยบายรัฐบาลด้าน BCGอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมนำไปใช้ในการจัดการทรัพยากรภายในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การลงนาม MoU ในวันนี้จึงเป็นอีกกิจกรรมที่สนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเนนการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดลอม และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ตลอดจน  สรางความยั่งยืนให้กับระบบเศรษฐกิจไทย รวมทั้งสอดคล้องตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่       มุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็น Big Brother ชั้นนำของไทยที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และประสบความสำเร็จในการจัดการภายในองค์กรตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยจะผนึกกำลังร่วมกันผลักดันให้มีการนำมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป

               นายวันชัย  พนมชัย  เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ได้ดำเนินการกำหนดมาตรฐานตามนโยบายรัฐบาลด้าน BCG โดยกำหนดมาตรฐานพลาสติกชีวภาพ  มาตรฐานการนำวัสดุเหลือใช้มาหมุนเวียนใช้ใหม่ และมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมนำไปใช้เป็นแนวทางในการอนุรักษ์ และลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562  เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วนนำไปใช้ในการจัดการทรัพยากรในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้งาน และการนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นวัตถุดิบใหม่ รวมถึงการออกแบบการดำเนินงานของธุรกิจ และการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลให้ปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นมีจำนวนลดน้อยลง จนกระทั่งนำไปสู่การไม่มีของเสี

 “หลังจากนี้ สมอ. จะเริ่มเดินสายรณรงค์ให้ความรู้แก่ทุกภาคส่วนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักในความสำคัญของมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการทรัพยากรในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ทาง www.tisi.go.th และhttps://www.facebook.com/tisiofficial” เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งท้าย