ข้อมูลการเร่งรัดพัฒนาโลจิสติกส์ในพื้นที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 หรือ “อีสานเหนือ” ประกอบด้วย จ.อุดรธานี เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ นั้นมีความสำคัญ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป. ลาว ที่มีสะพานมิตรภาพไทย - ลาว เป็นประตูการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ต่อเนื่องไปยังประเทศจีน การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้เชื่อมโยงกันจึงเพิ่มศักยภาพของจังหวัดต่างๆ ให้ทั่วถึง เป็นผลดีโดยรวมกับกลุ่มอีสานเหนือทั้งหมด
มาไล่เรียงโครงการพัฒนาโลจิสติกส์ด้านต่างๆ ดู เพื่อเลือกติดตามความคืบหน้าแต่ละโครงการ
โครงข่ายถนน
โครงข่ายทางถนน วางแผนปรับปรุงประสิทธิภาพในปีงบประมาณ 2562 – 2566 ดังนี้
ขยายช่องจราจร ตอนหล่มสัก – หล่มเก่า – ภูเรือ - เลย เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 128 กิโลเมตร
ขยายช่องจราจร ตอนผานกเค้า - วังสะพุง เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 25 กิโลเมตร
ขยายช่องจราจร ตอนสังคม - โสกกล้า ให้ได้มาตรฐานทางชั้น 1 ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร รองรับปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยได้ 3,483 คันต่อวัน
ขยายช่องจราจร ตอนปากภู – โคกใหญ่ - ปากห้วย เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทางรวม 19.64 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย รองรับปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยได้ 3,549 คันต่อวัน
ขยายช่องจราจร ตอนอ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย – ห้วยเชียงดา - ปากชม - อ.เชียงคาน (เลียบโขง) จ.เลย เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 104.6 กิโลเมตร
ขยายช่องจราจร ตอนอุดรธานี – น้ำสวย - สะพานมิตรภาพหนองคาย เป็น 6 ช่องจราจร ระยะทาง 22.7 กิโลเมตร รองรับปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยได้ 28,188 คันต่อวัน
ขยายช่องจราจร ตอนหนองบัวลำภู - ศรีบุญเรือง - ชุมแพ – ชัยภูมิ เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 160 กิโลเมตร
ขยายช่องจราจร ตอนหนองบัวลำภู - โนนสัง - อุบลรัตน์ – ขอนแก่น เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 37.92 กิโลเมตร รองรับปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยได้ 4,662 คันต่อวัน
ปรับปรุงทางหลวง ตอนหนองหิ้ง - เหล่าหลวง ต.เซกา ต.หนองหิ้ง อ.เซกา จ.บึงกาฬ เพิ่มมาตรฐานทางเป็นชั้น 1 รองรับปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยได้ 5,580 คันต่อวัน
ปรับปรุงขยายทาง ถนนทางหลวงชนบท บ.โนนจำปาทอง อ.เมือง อ.เซกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ที่มีขนาด 2 ช่องจราจร ระยะทาง 4.15 กิโลเมตร ให้ดียิ่งขึ้น
จัดระเบียบการจราจรเพื่อแก้ไขปัญหาการติดขัดช่วงทางเข้าท่าอากาศยานอุดรธานี และถนนวงแหวนรอบเมืองอุดรธานี รองรับปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยได้ 22,228 คันต่อวัน
เสริมศักยภาพการคมนาคมทางอากาศ
การเสริมศักยภาพการคมนาคมทางอากาศ เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางอากาศ ดังนี้
ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารแห่งใหม่ของท่าอากาศยาน จ.เลย ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นถึง 1,700,000 คนต่อปี และสามารถจอดรถยนต์ได้กว่า 300 คัน
ขยายลานจอดเครื่องบิน จากเดิมที่รองรับเครื่องบิน Boeing 737 ได้เพียง 2 ลำ เป็น 4 ลำในเวลาเดียวกัน
ศึกษาความเหมาะสมของการก่อสร้างสนามบินบึงกาฬ
การพัฒนาระบบราง
การพัฒนาระบบรางที่มีความแน่นอนคือ
รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร เป็นการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง (ระบบรถไฟทางคู่) ระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง รองรับการเชื่อมต่อเส้นทางหนองคาย – นครราชสีมา – สระบุรี – ฉะเชิงเทรา – แหลมฉบัง - มาบตาพุด
มีประโยชน์สนับสนุนเพิ่มเติมด้านการขนส่งสินค้าจากจีน และลาว มายังท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด รวมทั้งเชื่อมโยงแนวตะวันออก-ตะวันตก (สระบุรี – นครราชสีมา – ขอนแก่น – อุดรธานี – หนองคาย - เวียงจันทน์) ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
การสร้างรถไฟความเร็วสูง เชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ – หนองคาย
ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ช่วงกลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว เหลืออีกประมาณร้อยละ 40 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2562
ระยะต่อไป อยู่ระหว่างจัดทำรายงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ขยายความ
ภาคอีสานมีพื้นที่กว้างขวางมากที่สุดในประเทศ มีประชากรมากที่สุด (เท่ากับมีผู้แทนราษฎรมากที่สุด) เศรษฐกิจโดยรวมของภาคกำลังขยายตัว และมีบทบาทสำคัญ(ในระดับประเทศ)มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาพรรคการเมืองใดได้สส. ภาคอีสานมากที่สุด ย่อมมีพลังทางการเมืองมากกว่าพรรคอื่น ในอนาคตกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนแบ่งในภาคอีสานมากย่อมมีพลัง มีปากมีเสียงในสังคมมากขึ้น
#