ไอคอน เฟรมเวิร์ค ย้ำจุดยืน ที่หนึ่งด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการธุรกิจอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์ธุรกิจอสังหาฯ ที่สุดในไทย เผยซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ดึงร่วมธุรกิจ

ไอคอน เฟรมเวิร์ค ย้ำจุดยืน ที่หนึ่งด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการธุรกิจอสังหาฯ

ที่ตอบโจทย์ธุรกิจอสังหาฯ ที่สุดในไทย

เผยซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ดึงร่วมธุรกิจ

 

 

 

 

        บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ผู้พัฒนาระบบ ICON R.E.M (ICON Real Estate Managementระบบบริหารจัดการสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทยยาวนานกว่า 11 ปี และเป็นผู้พัฒนาระบบให้กับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย ได้จัดงาน ICON NEXT ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อแถลงนโยบายและการปรับปรุงระบบ ICON R.E.M ของบริษัทฯ เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของนักพัฒนาอสังหาฯ และผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกันนั้นยังเปิดตัว ICON with S.A.P Business One ระบบที่พัฒนาขึ้นมาร่วมกับ S.A.P ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

 

นายวรรณเทพ หรูวิจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด พร้อมผู้บริหาร ได้จัดงาน ICON NEXT ขึ้น เพื่อแถลงนโยบายในปี พ.ศ. 2562 รวมถึงประสิทธิภาพของระบบ ICON R.E.M ของบริษัทฯ ที่พัฒนา ปรับปรุง ให้มีความทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้นในปัจจุบันทั้งในเรื่อง การซื้อ ขาย จอง และชำระเงินจองผ่านระบบ ICON Mobile Smart Sales ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อความสะดวกสำหรับพนักงานขาย ในการซื้อ ขาย และการนัดหมายกับผู้ที่สนใจต้องการซื้อคอนโดมิเนียมระบบ Customer Portal เพื่อบริการลูกบ้านระบบ QC Inspection สำหรับการตรวจรับมอบบ้านระบบ Transfer on Tablet สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ และระบบ ICON Connect เพื่อส่งข้อมูลรายงานสรุป และ Dashboard ให้กับผู้บริหารเพื่อประกอบการตัดสินใจซึ่งสามารถตรวจสอบการขาย การจอง และข้อมูลอื่นๆ ในแต่ละวันแบบทันทีทันใด (Real Time) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ

 

“บริษัทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาระบบเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายใหญ่ มาอย่างยาวนานกว่า 11 ปี ณ วันนี้ ICONยังคงไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้ ICON เป็นระบบที่ตอบโจทย์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด ที่สำคัญคือ การพัฒนาของเราต้องพัฒนาให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน เราต้องก้าวไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเพื่อตอกย้ำว่า ICON เป็นระบบที่สามารช่วยให้ธุรกิจของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง” นายวรรณเทพ กล่าว

 

นอกจากนั้น ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก Mr. Stefan Roesler, Senior Director S.A.P Business One Asia Pacific and Japan & Great China บริษัทผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งทาง บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการคิดค้น พัฒนา และออกแบบระบบที่มีชื่อว่า ICON with S.A.P Business One ขึ้น ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการบริหารงานก่อสร้าง (Construction Management) และบัญชี (ERP) ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นระบบที่ช่วยในการคำนวณต้นทุนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง การจัดซื้อและสั่งจ้างการควบคุมงวดงาน และการเบิกจ่าย ซึ่งทางไอคอนเฟรมเวิร์คเป็นเพียงบริษัทที่ได้รับเลือกจาก S.A.P ให้พัฒนาระบบนี้ขึ้นมา

 

นอกจากนั้นในงานยังได้รับเกียรติจากคุณณัฐพล ลืมพร้อมชัย Executive Vice President ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), คุณสุภิดา บรรเทาทุกข์ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษการบริหารการเสียภาษีทาง Electronic กรมสรรพากร และคุณเจษฎา วานิชสัมพันธ์ Director of Software Development, INET ที่มาร่วมบรรยายให้ความรู้ด้านการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในหลากหลายมิติที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิตัลในปัจจุบันอีกด้วย

 

“บริษัทฯ ยังคงเน้นการพัฒนาระบบงาน ICON R.E.M (ICON Real Estate Management) ให้กับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากเราคิดค้นและพัฒนาระบบงานมาจากปัญหาของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการให้ระบบของเราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคโดยเฉพาะคนไทย และ ณ ตอนนี้ผมก็เชื่อมั่นได้ว่าระบบของ ICON สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างดีที่สุดในประเทศไทยจากประสบการณ์ การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง คิดค้นและพัฒนา ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ด้วยทีมงานกว่า 100 ชีวิต ทำให้วันนี้เรามั่นใจได้ว่าระบบของเราสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ SMEs จนถึงระดับประเทศเลยก็ว่าได้ครับ” นายวรรณเทพ กล่าวปิดท้าย

 

 

บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ยังได้มีระบบ ICON R.E.M Cloud เพื่อให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ SMEs ได้ใช้ระบบ ICON R.E.M ที่คล้ายคลึงกับระบบของบริษัทขนาดใหญ่อีกด้วยเพื่อต้องการส่งเสริมให้ธุรกิจเหล่านั้นได้เติบโตแข็งแกร่งได้ในตลาดนั่นเอง