ระเบียบการขายและการซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง

เรื่องควรรู้ และบันทึกไว้เพื่อสะดวกในการตรวจสอบครั้งนี้คือ ข้อกฎหมายล่าสุดเกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง 

 

หลักการสำคัญในการตัดสินใจขายหุ้นของกระทรวงการคลัง

เรื่องนี้เป็นมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9  เมษายน  2562 เรื่อง ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการเสนอกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ            พ.ศ. 2561 เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในกำหนดระยะเวลา

กระทรวงการคลัง (กค.) รายงานว่า

1. เดิม กค. ได้มีระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ  พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 24 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติมใช้บังคับ ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นในนิติบุคคล โดยจะต้องเป็นการจำหน่ายหุ้นในนิติบุคคลเพื่อไปซื้อหุ้นในนิติบุคคลอื่น

2. โดยที่ได้มีพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 34 วรรคสี่ (4) ประกอบกับวรรคห้า บัญญัติให้เมื่อมีเหตุผลอันสมควร รัฐมนตรีจะอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายหุ้นในนิติบุคคลเพื่อนำไปซื้อหุ้นในนิติบุคคลอื่น สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องนำส่งคลังก็ได้ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ประกอบกับมาตรา 86 บัญญัติให้บรรดาระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้มีผลใช้บังคับต่อไปได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีการออกระเบียบตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ซึ่งการจะออกระเบียบดังกล่าวต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (ครบกำหนดระยะเวลาหนึ่งปีในวันที่ 20 เมษายน 2562) ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน

สาระสำคัญของร่างระเบียบ

1. การจำหน่ายหุ้นนิติบุคคลต้องจำหน่ายเพื่อไปซื้อหุ้นนิติบุคคลอื่น ซึ่งการจำหน่ายหุ้นนิติบุคคลให้จำหน่ายหุ้นที่มีลักษณะ ดังนี้

1.1 หุ้นที่รัฐบาลมีนโยบายให้จำหน่าย

1.2 หุ้นซึ่งมีอัตราผลตอบแทนต่ำ

1.3 หุ้นที่ภาครัฐไม่มีความจำเป็นต้องถือไว้เพื่อการพัฒนาประเทศ

1.4 หุ้นที่ได้จากการยึดทรัพย์ หรือหุ้นที่ได้มาโดยนิติเหตุ

1.5 หุ้นที่ได้รับโอนมาจากส่วนราชการอื่นเนื่องจากหมดความจำเป็นตามนโยบายภาครัฐ

1.6 หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เอกชนสามารถดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว

1.7 หุ้นของนิติบุคคลที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์ เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย หรือฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายเลิกกิจการ ชำระบัญชี หรือมีสถานะร้าง

2. การจำหน่ายหุ้นนิติบุคคล ให้ดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ หรือจำหน่ายให้กับสถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือกองทุนซึ่งมีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีให้จัดตั้งขึ้น

3. การจำหน่ายหุ้นนิติบุคคล โดยมีเงื่อนไขหรือกำหนดสิทธิให้สามารถซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องจำหน่ายให้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือกองทุนซึ่งมีกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรีให้จัดตั้งขึ้น

4. การซื้อหุ้นนิติบุคคลให้ซื้อหุ้นที่มีลักษณะ ดังนี้

4.1 หุ้นเพื่อดำรงสัดส่วนร้อยละ 70 ในกรณีที่มีเงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันคงค้างอยู่หรือมีเงินให้กู้ต่อ

4.2 หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม

4.3 หุ้นนิติบุคคลที่รัฐบาลมีนโยบายให้ร่วมลงทุน

4.4 หุ้นในนิติบุคคลที่ทำกิจการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ

4.5 หุ้นในกิจการที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศและสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

4.6 หุ้นในนิติบุคคลที่ซื้อคืนทั้งหมดหรือบางส่วนตามเงื่อนไขหรือสิทธิภายในระยะเวลา               ที่กำหนด

5. เงินจากการจำหน่ายหุ้นให้นำฝากไว้กับกระทรวงการคลังใน “บัญชีเงินฝากเพื่อการซื้อหุ้น”

6. ให้บัญชีเงินฝากเพื่อการซื้อหุ้นตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ เป็นบัญชีเงินฝากเพื่อการซื้อหุ้นตามร่างระเบียบฯ และให้การจำหน่ายหรือการซื้อหุ้นที่ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และ/หรือมติคณะรัฐมนตรีฯ ซึ่งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จในวันที่ร่างระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ให้ดำเนินการต่อไปได้ตามหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ หรือมติคณะรัฐมนตรีฯ จนเสร็จสิ้น และให้ถือว่าเป็นการจำหน่ายหรือการซื้อหุ้นตามระเบียบนี้เพื่อรองรับการดำเนินงานให้มีความต่อเนื่องและชัดเจน

ข้อมูลเพิ่มเติม

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรม การนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา อนุมัติการขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 2 บริษัท จากเป้าหมายที่ต้องการขายทั้งสิ้น 24 บริษัท เนื่องจากมีนักลงทุนที่แสดงความสนใจและเสนอราคาเข้าซื้อในระดับที่น่าสนใจ

หุ้นในบริษัทเอกชนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการประกาศขาย ที่ผ่านมายอมรับว่า มีนักลงทุนแสดงความสนใจเสนอราคาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถตกลงในรายละเอียดได้ เพราะราคาที่เสนอเข้ามานั้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี และราคาประเมินทำให้ สคร.ไม่สามารถพิจารณาขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่ถืออยู่ในส่วนดังกล่าวออกไปได้

กระทรวงการคลัง มีเป้าหมายที่จะขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่ถืออยู่ทั้งหมด 24 บริษัท ซึ่งไม่ใช่หุ้นยุทธศาสตร์ที่ต้องถือ โดยส่วนหนึ่งเป็นหุ้นที่ได้มาจากการยึดทรัพย์ในอดีต ซึ่งเป็นผลให้ สคร. ต้องเข้าไปดูแลหุ้นดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ผลตอบแทนมากนักเมื่อเทียบกับภาระที่ต้องเข้าไปดูแล

ตอนนี้สรุปได้เพียง 2 บริษัท เพราะนักลงทุนเสนอราคาเข้ามาอยู่ในจุดที่รับได้ ส่วนที่เหลือยังติดปัญหาว่านักลงทุนที่สนใจเสนอราคาเข้ามาค่อนข้างต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เบื้องต้นต้องยอมรับว่าอาจเป็นเพราะบริษัท หรือธุรกิจไม่มีความน่าสนใจเพียงพอ ตรงนี้ สคร.จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งว่าทำไมนักลงทุนจึงไม่ให้ความสนใจ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป" นายประภาศกล่าว

ทั้งนี้ สคร.จะเปิดขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่กระ ทรวงการคลังถือในส่วนที่เหลือต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ราคาเป็นที่น่าพอใจจึงเสนอเรื่องให้กระทรวงการคลังอนุมัติ ส่วนหุ้นของบริษัทใน ตลท. ที่กระทรวงการคลังถืออยู่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีแผนจะขายออกแต่อย่างใด.

 

ข้อมูลเสริม

รายชื่อหุ้นที่กระทรวงการคลังต้องการขายมีอยู่ในบริษัทดังต่อไปนี้

บริษัท ถกลสุข จำกัด

บริษัท บางกอกเดินเรือและการค้า จำกัด

บริษัท ประจวบอุตสาหกรรม จำกัด

บริษัท พิษณุโลกอินเตอร์เวชการ จำกัด

บริษัท สยามซิตี้ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท อ๊อกซิเจนภาคใต้ จำกัด

บริษัท เอส ที เอ็ม เอส จำกัด

บริษัท เดวิส โกลเด้นท์ สตาร์ จำกัด

บริษัท เดวิส โคปา คาบานา จำกัด

บริษัท เดวิส ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด

บริษัท เดวิส ไดมอนด์ สตาร์ จำกัด

บริษัท ลำไพลพาราวู้ด จำกัด

บริษัท ชลสิน จำกัด

บริษัท ไทยยูนีค จำกัด

บริษัท รอยัลคราฟท์ จำกัด

บริษัท ไทยยิบซั่ม จำกัด

บริษัท ทักษิณซักรีด จำกัด

บริษัท สหชาติเศรษฐกิจ จำกัด

#