งานวิจัยปริญญานิพนธ์ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณการใช้เหล็กเส้น 3 มาตรฐานด้วยวิธีกำลังชี้ชัด เหล็กเส้นชั้นคุณภาพสูงกว่าประหยัดปริมาณเหล็ก ลดการใช้เหล็กลง ขณะที่ความมั่นคงแข็งแรงได้เท่ากันเมื่อหน้าตัดโครงสร้างคอนกรีตคงที่
นักศึกษา ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้วิจัยโดยทำโครงงานเปรียบเทียบการออกแบบอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กโดยวิธีกำลัง 3 มาตรฐานคือ 1.มาตรฐานกฎกระทรวง 2.มาตรฐานกรมโยธาธิการและผังเมือง 3.มาตรฐานสมาคมคอนกรีตอเมริกา นักศึกษาผู้วิจัยประกอบด้วย 1. นส.กมลวรรณ อรุณมนี 2. นายนิติ วงศ์ซื่อสัตย์ โดยมีรศ.ดร.สายันต์ สิริมนตรี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2559
นส.กมลวรรณ อรุณมนี กล่าวว่า การศึกษาเปรียบเทียบทั้ง 3 มาตรฐานนั้นเพราะแต่ละมาตรฐานมีค่า Factor แตกต่างกัน เมื่อต้องการศึกษาเปรียบเทียบถึงการใช้ปริมาณเหล็กในโครงสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กจึงต้องศึกษาทั้ง 3 มาตรฐาน เพื่อให้การเปรียบเทียบการใช้เหล็กเส้น SD30 SD 40 และ SD 50 มีความครบถ้วนสมบูรณ์เพราะสามารถเทียบเคียงผลลัพธ์ในแต่ละมาตรฐานได้
นายนิติ วงศ์ซื่อสัตย์ เสริมว่า งานวิจัยมีสาระสำคัญคือ การศึกษาเปรียบเทียบปริมาณเหล็กเสริมในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก กรณีศึกษา อาคาร 7 ชั้น โดยแบ่งตามวิธีการออกแบบ ตามกฎกระทรวง มาตรฐานกรมโยธาและผังเมือง และสมาคมคอนกรีตอเมริกา และยังแบ่งตามคุณภาพชั้นเหล็กเสริม SD 30 SD40 และ SD50 โดยกำหนดให้หน้าตัดโครงสร้างคอนกรีตคงที่
นส.กมลวรรณ อรุณมนี กล่าวถึงผลลัพธ์ ในการศึกษาว่า ได้ศึกษาโครงสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูง 3 เมตร เพื่อดูปริมาณเหล็กที่ใช้ในแต่ละชั้นคุณภาพเมื่อกำหนดให้หน้าตัดโครงสร้างคอนกรีตคงที่ และมีความมั่นคงแข็งแรงเท่ากัน ข้อมูลที่ชี้ชัดเจนว่าคือ เมื่อใช้เหล็กชั้นคุณภาพ SD 50 สามารถประหยัดปริมาณเหล็กได้กว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับ เหล็กชั้นคุณภาพ SD 30 และเมื่อเทียบเหล็กชั้นคุณภาพ SD 50 กับ SD 40 สามารถประหยัดปริมาณเหล็กได้กว่าร้อยละ 20 ทั้งนี้มีความมั่นคงแข็งแรงเท่ากัน จากผลการศึกษานี้โอกาสที่งานก่อสร้างโครงสร้างคอนกรีตเสริมนั้นจะหันมาใช้เหล็กชั้นคุณภาพ SD 50 เพิ่มขึ้น เพราะประหยัดเหล็กเส้นก่อสร้าง มีผลช่วยให้งานก่อสร้างรวดเร็วมากขึ้น ลดต้นทุนรวมการก่อสร้าง
งานวิจัยที่นำเสนอนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยปริญญานิพนธ์ (Senior Project) จากบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
รศ.ดร.นคร ภู่วโรดม หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้กล่าวเสริมว่า งานวิจัยปริญญานิพนธ์ของนักศึกษาเมื่อผ่านการตรวจสอบพิจารณาและอนุมัติของทางภาควิชาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือพิมพ์งานนั้นออกมา มีการขอหมายเลข ISBN และถือว่าเป็นงานวิชาการที่นำไปอ้างอิงได้
#