การเคลื่อนย้ายทางกายภาพยังมีความจำเป็น นักท่องเที่ยวต้องไปถึงพื้นที่จริง สินค้าทางเกษตรกรรมต้องเดินทางจากไร่นาสวนไปถึงมือผู้บริโภค ดิจิทัลเทคโนโลยีช่วยให้การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และทางกายภาพระบบโลจิสติกส์ต้องมีความพร้อมมากที่สุด ทั้งมิติเข้าถึงพื้นที่และมิติพร้อมบริการอำนวยความสะดวกให้ภาคการผลิต ภาคบริการและท่องเที่ยว ที่มีความต้องการอันหลากหลายทั้งเหมือนและแตกต่างกัน
ข้อมูลต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาคส่วนการคมนาคมขนส่งกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และภาคเกษตรกรรม
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 มีนาคม 2561 เรื่อง รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 และการเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นๆ
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 และการเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นๆ ดังนี้
(มี 3 เรื่องคือ
1. ผลการดำเนินการตามข้อสั่งการในการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง (16 จังหวัด)
2. ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ของกระทรวงคมนาคม
3. ผลการดำเนินงานการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2560 ของพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง)
ส่วนนี้เป็น เรื่องที่ 2.2 กับ 2.3 และเรื่องที่ 3
2.2 การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเพื่อสนับสนุนการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคมได้สนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในชุมชน สร้างความเจริญไปยังพื้นที่และช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ เป็นการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวก โดยกรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตก (The Royal Coast) เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์และชุมพร เมื่อโครงข่ายถนนดังกล่าวแล้วเสร็จจะมีความต่อเนื่อง สะดวก ปลอดภัย และเป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวในระดับสากลอย่างยั่งยืน และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลแห่งใหม่เพิ่มขึ้น โดยออกแบบเป็นถนนขนาด 2 ช่องจราจร มีทางจักรยานและไหล่ทางสีแดง 2 ข้างทางเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งขยายสะพานในจุดที่มีลักษณะคอขวดให้กว้างขึ้น ประกอบด้วยเส้นทางสำคัญ ได้แก่
- โครงการปรับปรุงถนนสาย บ.คลองโคน - บ.บางตะบูน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม, อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ระยะทาง 14.386 กิโลเมตร งบประมาณ 297.180 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2561
- โครงการก่อสร้างถนนสาย บ.ท่าม่วง - บ.บางเปิด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 16.122 กิโลเมตร งบประมาณ 198.670 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง กำหนดแล้วเสร็จในปี 2561
- โครงการก่อสร้างถนนสาย บ.สระน้อย - บ.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 10.011 กิโลเมตร งบประมาณ 110.224 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้าง ในปี 2561 กำหนดแล้วเสร็จปี 2563
นอกจากนี้ กรมทางหลวง ได้พัฒนาปรับปรุงเส้นทางให้สามารถรองรับการเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
- โครงการขยายเพิ่มช่องจราจร ทางหลวงหมาย 4 ช่วงห้วยทรายใต้-วังยาว ตอน บ.เขาเต่า-บ.วังยาว (รวมทางแยกต่างระดับวังยาว) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 7.7 กิโลเมตร กรมทางหลวงได้เสนอคำของบประมาณปี 2562 เพื่อดำเนินการ วงเงิน 800 ล้านบาท
- โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ ทางหลวงหมายเลข 3187 ช่วงเขื่อนเพชร-บางกุฬา จ.เพชรบุรี กรมทางหลวงได้เสนอคำของบประมาณปี 2562 เพื่อดำเนินการ วงเงิน 200 ล้านบาท
2.3 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงไปยังพื้นที่เกษตรกรรม กระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการพัฒนาทางหลวงชนบท โดยการก่อสร้างทาง สะพาน งานบำรุงรักษาทางและอำนวยความปลอดภัยงานทาง เพื่อสนับสนุนการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ การขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร เชื่อมเข้าสู่ถนนสายหลัก (ทางหลวงแผ่นดิน) ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยในปีงบประมาณ 2561 อยู่ระหว่างดำเนินการ 127 โครงการ วงเงิน 840.866 ล้านบาท และได้จัดทำคำของบประมาณปี 2562 จำนวน 147 โครงการ วงเงิน 2,360.261 ล้านบาท
3. ผลการดำเนินงานการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2560 ของพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง
ในพื้นที่กลุ่มภาคกลางตอนล่าง 4 จังหวัด (จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปี 2560 พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 33 สายทาง วงเงิน 375.76 ล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 22 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 66.67 อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 4 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 12.12 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ จำนวน 7 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 21.21 ประกอบด้วย
- กรมทางหลวง มีความเสียหายจากอุทกภัย 27 สายทาง วงเงิน 290.29 ล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 18 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 66.67 อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 7.41 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ 7 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 25.92 คาดว่าจะแล้วเสร็จครบ ทุกสายทาง ภายในเดือนกันยายน 2561
- กรมทางหลวงชนบท มีความเสียหายจากอุทกภัย 6 สายทาง วงเงิน 85.47 ล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 4 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 66.67 และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 สายทาง คิดเป็นร้อยละ 33.33 คาดว่าจะแล้วเสร็จครบทุกสายทางภายในเดือนพฤษภาคม 2561
#