ความคืบหน้าของโครงการทางพิเศษกระทู้-ป่าตองติดตามได้จากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เรื่อง ผลการดำเนินงานโครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
แนวสายทาง-การก่อสร้างทางยกระดับและอุโมงค์
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
สาระสำคัญและข้อเท็จจริง
การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้จัดทำรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยมีสาระสำคัญของโครงการ ความคืบหน้า และแผนการดำเนินโครงการสรุปได้ ดังนี้
1. สาระสำคัญของโครงการ
1.1 แนวสายทางโครงการ
โครงการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ มีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวสายทาง ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถนนพระเมตตา ในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ เป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง (สำหรับรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง) ยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ จนถึงเขานาคเกิด ระยะทาง 0.9 กิโลเมตร แล้วจึงเป็นอุโมงค์ลอดเขานาคเกิด ระยะทาง 1.85 กิโลเมตร หลังจากผ่านช่วงภูเขาจึงเป็นทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กิโลเมตร จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการในพื้นที่ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ บริเวณจุดตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029
1.2 รูปแบบโครงการ
1) รูปแบบโครงสร้างทางยกระดับ
โครงสร้างทางยกระดับสายทางหลักเป็นคานคอนกรีตอัดแรงรูปตัว I(I - Beam Girder) ขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง แบ่งเป็นรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง กว้างช่องละ 3.50 เมตรมีไหล่ทางด้านซ้ายกว้าง 2.00 เมตร ไหล่ทางด้านขวากว้าง 0.50 เมตร และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง กว้างช่องละ 1.75 เมตร มีไหล่ทางด้านซ้ายกว้าง 1.00 เมตร ไหล่ทางด้านขวากว้าง 0.50 เมตร มีการติดตั้งราวกันชนคอนกรีต (Concrete Barrier) แบ่งแยกรถจักรยานยนต์และรถยนต์ออกจากกันเพื่อความปลอดภัย
2) รูปแบบโครงสร้างอุโมงค์
โครงสร้างเป็นอุโมงค์คู่ ห่างกันประมาณ 25 เมตร โดยแต่ละอุโมงค์มีความกว้างภายในรวม 17.10 เมตร และมีขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง แบ่งเป็นรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง กว้างช่องละ 3.50 เมตร มีไหล่ทางด้านซ้ายกว้าง 2.00 เมตร ไหล่ทางด้านขวากว้าง 0.50 เมตร และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง กว้างช่องละ 1.75 เมตร มีไหล่ทางด้านซ้ายกว้าง 1.00 เมตร ไหล่ทางด้านขวากว้าง 0.50 เมตร มีการติดตั้งราวกันชนคอนกรีต แบ่งแยกรถจักรยานยนต์และรถยนต์ออกจากกันเพื่อความปลอดภัย มีทางเท้าข้างอุโมงค์กว้างข้างละ 1.00 เมตร เพื่อการซ่อมบำรุงและใช้กรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ ภายในอุโมงค์จะมีระบบต่าง ๆ ที่จำเป็น ได้แก่ ระบบระบายอากาศ ระบบตรวจวัดปริมาณมลสาร CO NO2 ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบกระจายเสียง ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบป้ายสัญญาณจราจรและป้ายข้อความ ระบบระบายน้ำ เป็นต้น
3) ด่านเก็บค่าผ่านทางและศูนย์ควบคุมทางพิเศษ
ด่านเก็บค่าผ่านทางตั้งอยู่บริเวณด้านกะทู้ จำนวน 1 ด่าน เก็บค่าผ่านทางทั้ง 2 ทิศทาง คือ ทิศทางกะทู้ - ป่าตอง และทิศทางป่าตอง - กะทู้ ประกอบด้วย ช่องเก็บค่าผ่านทางทิศทางละ 9 ช่องทาง จำแนกเป็น รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 ช่องทาง (6 ตู้) รถยนต์ จำนวน 5 ช่องทาง และรถบรรทุก จำนวน 1 ช่องทาง โดยมีพื้นที่เผื่อไว้สำหรับจัดทำช่องเก็บค่าผ่านทางในอนาคตด้านละ 1 ช่องทาง
มูลค่าการลงทุนและผลตอบแทน
1.3 มูลค่าลงทุนโครงการ
โครงการมีมูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 14,177.22 ล้านบาท จำแนกเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 5,792.24 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง (รวมค่าควบคุมงาน) จำนวน 8,384.98 ล้านบาท ดังนี้
รายการ |
มูลค่าโครงการ (ล้านบาท) |
1. ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน |
|
1.1 ค่าเวนคืนที่ดิน |
4,781.04 |
1.2 ค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้าง |
1,011.20 |
รวม (1.1+1.2) |
5,792.24 |
2. ค่าก่อสร้าง (รวมค่าควบคุมงาน) |
8,384.98 |
รวมทั้งหมด |
14,177.22 |
หมายเหตุ : ราคาประเมิน ณ ปี 2561 (ค่าควบคุมงาน 203.74 ล้านบาท)
1.4 การจัดเก็บค่าผ่านทาง
ระบบเก็บค่าผ่านทางที่เหมาะสมของโครงการเป็นแบบระบบเปิด (Open System) เก็บค่าผ่านทางอัตราเดียว (Flat Rate) โดยในปีเปิดให้บริการจัดเก็บค่าผ่านทางในอัตรา 15/40/85/125 บาทต่อคัน สำหรับรถจักรยานยนต์/รถ 4 ล้อ/รถ 6 - 10 ล้อ/รถมากกว่า 10 ล้อ
1.5 การคาดการณ์ปริมาณจราจร
จากผลการคาดการณ์ปริมาณจราจร พบว่า ในปีเปิดให้บริการคาดว่าจะมีปริมาณจราจรใช้ทางพิเศษ จำนวน 71,050 คัน/วัน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ 35,261 คัน/วัน รถ 4 ล้อ 34,225 คัน/วัน รถ 6 - 10 ล้อ 1,548 คัน/วัน และรถมากกว่า 10 ล้อ 16 คัน/วัน
1.6 ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ
ดัชนีชี้วัด |
ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ |
อัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ (EIRR) (%) |
20.44 |
มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) (ล้านบาท) |
12,896.29 |
อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อทุน (B/C Ratio) (เท่า) |
1.32 |
ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) (ปี) |
8 |
หมายเหตุ : อัตราคิดลด (Discount Rate) เท่ากับ ร้อยละ 12
1.7 ผลตอบแทนด้านการเงิน
ผลตอบแทนด้านการเงินกรณีเอกชนร่วมลงทุน โดยรัฐอุดหนุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมด เอกชนรับภาระค่าก่อสร้างและควบคุมงานทั้งหมด ดังนี้
ดัชนีชี้วัด |
ผลตอบแทนด้านการเงิน |
อัตราผลตอบแทนด้านการเงิน (FIRR) (%) |
8.94 |
มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) (ล้านบาท) |
264.58 |
อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อทุน (B/C Ratio) |
1.02 |
ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) (ปี) |
24 |
หมายเหตุ : อัตราคิดลด (Discount Rate) เท่ากับ ร้อยละ 8.25
2. ความคืบหน้าของโครงการ
การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้จัดส่งรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการฯให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้เชิญประชุมหารือเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 และ 17 เมษายน 2562 โดยขอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ให้มีความชัดเจน เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนในการนำเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการของโครงการต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวจะต้องดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ของกรมป่าไม้ จำนวน 3 ป่า ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด เนื้อที่ 60 ไร่ 89 ตารางวา พื้นที่ป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี เนื้อที่ 21 ไร่ 1 งาน 63 ตารางวา และพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 เนื้อที่ 27 ไร่ 2 งาน 95 ตารางวา
ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ทั้งหมดแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563 อย่างไรก็ตาม การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้รายงานความคืบหน้าให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทราบในเบื้องต้นแล้ว
3.แผนการดำเนินโครงการ
ขั้นตอนการดำเนินงาน |
ระยะเวลา |
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทยขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ |
พฤษภาคม 2562 - ธันวาคม 2563 |
- กรมป่าไม้เห็นชอบการขออนุญาตใช้พื้นที่ |
30 ธันวาคม 2563 |
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทยชี้แจง/ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ |
กันยายน 2563 - มกราคม 2564 |
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจนำเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพิจารณา และคณะกรรมการนโยบายฯ นำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้ดำเนินโครงการ และร่างพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน |
กุมภาพันธ์ 2564 - พฤษภาคม 2564 |
- ออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เพื่อจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน |
มิถุนายน 2564 - พฤศจิกายน 2564 |
- จัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน |
ธันวาคม 2564 - พฤศจิกายน 2566 |
- คัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการ |
มิถุนายน 2564 - มกราคม 2566 |
- ก่อสร้างโครงการ |
กุมภาพันธ์ 2566 - มกราคม 2570 |
- เปิดให้บริการ |
กุมภาพันธ์ 2570 |
4. ความเห็นของกระทรวงคมนาคม
โครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยทำให้เกิดการเชื่อมโยงการเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังหาดป่าตองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต สามารถบรรเทาปัญหาการจราจรบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 และใช้เป็นเส้นทางเลือกในการอพยพในกรณีเกิดภัยพิบัติ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะได้เร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานต่อไป
#