รายงาน GPCI 2019 ของมูลนิธิ Mori Memorial Foundation ระบุว่าลอนดอนกำลังชะลอตัว โตเกียวกับลังซบเซา และปารีสกำลังเทรนด์สูงขึ้น
48 เมืองใหญ่ของโลกตามการจัดอันดั
โตเกียว--(บิสิเนสไวร์)--19 พ.ย. 2562
ลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว และปารีสได้รับเลือกอีกครั้งเป็
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีฟีเจอร์
ท่ามกลางความไม่แน่
เหตุการณ์ท้าทายจำนวนมากในปี 2562 ได้แก่ข้อพิพาททางการค้าระหว่
ไฮไลต์ (เมือง #1-#10)
- คะแนนของลอนดอน (#1) ลดลงอย่างชัดเจนในหมวด “มูลค่าจีดีพีตามราคาปัจจุบัน” และ “500 บริษัทอันดับต้นของโลก” ซึ่งอาจเกิดจากความสั
บสนจากการเจรจา Brexit อย่างไรก็ตาม ลอนดอนยังคงมีจุดแข็ งโดยรวมโดยมีตัวชี้วัด 12 จาก 16 ตัวในหมวดการโต้ตอบทางวั ฒนธรรมติด 5 อันดับแรก - นิวยอร์ก (#2) ยังติดอันดับหนึ่งในหมวดกลุ่
มเศรษฐกิจและการวิจัยและพัฒนา โดยได้รับคะแนนสูงในหมวด “มูลค่าจีดีพีตามราคาปัจจุบัน” และ “จำนวนนักวิจัย” ทั้ง “ความพร้อมของทรัพยากรมนุษย์ที่ มีทักษะ” และ “จำนวนชาวต่างชาติที่อยู่อาศัย” ภายใต้หมวดการปฏิสัมพันธ์ทางวั ฒนธรรมแสดงแนวโน้มที่ลดลงเนื่ องจากบุคคลที่มีทักษะได้ย้ ายไปอยู่เมืองอื่น - โตเกียว (#3) แม้จะมีคะแนนที่ลดลง แต่ยังคงอยู่ในอันดับที่สาม แม้ว่าปักกิ่ง (#24) จะแซงหน้าโตเกียวเกี่ยวกับ "ความเสี่ยงทางการเมือง เศรษฐกิจ และธุรกิจ" คะแนนปฏิสัมพันธ์ทางวั
ฒนธรรมของโตเกียวได้เพิ่มขึ้ นเนื่องจากการแข่งขันกีฬาโอลิ มปิกที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า โตเกียวทำคะแนนได้ดีในเรื่อง "ความดึงดูดของตัวเลือกการรั บประทานอาหาร" ในขณะที่ "จำนวนพิพิธภัณฑ์" และ "ตัวเลือกสถานบันเทิงยามค่ำคืน" อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งแสดงถึงความต้องการองค์ ประกอบการท่องเที่ยวที่น่าดึงดู ดยิ่งขึ้น - ปารีส (#4) หลังจากคะแนนที่เคยลดลงหลั
งจากเหตุก่อการร้ายในปี 2558 ปัจจุบันได้รับคะแนนที่ดีขึ้ นในหวมด “จำนวนผู้มาเยี่ยมชาวต่างชาติ” และ “จำนวนฆาตกรรม” การแข่งขันระหว่างปารีสและโตเกี ยวเพื่อเพิ่มพลังในเมืองคาดว่ าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเป็ นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิ มปิกในปี 2567 และ 2563 ตามลำดับ - สิงคโปร์ (#5) ยังคงเป็นเมืองที่มีความมั่นคง โดยได้รับอันดับหนึ่งในด้าน “ความเสี่ยงทางการเมืองเศรษฐกิ
จและธุรกิจ” และอันดับที่ 2 ในด้าน “เสรีภาพทางเศรษฐกิจ” สิงคโปร์ยังคงได้รับคะแนนสู งในด้าน “จำนวนผู้มาเยือนจากต่างชาติ” และ “จำนวนผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติ” ในฐานะศูนย์กลางระหว่างประเทศชั้ นนำของเอเชีย - ความนิยมของอัมสเตอร์ดัม (#6) ในฐานะจุดหมายปลายทางเพื่
อความบันเทิงได้รับการจัดอันดั บเป็นที่ 3 ในตัวบ่งชี้ "ทางเลือกชีวิตยามค่ำคืน" ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ โดยตามหลังลอนดอนและกรุงเทพ (#40) โซล (#7) ได้คะแนนดีในการวิจัยและพัฒนา โดยติด 10 อันดับแรกในห้าของแปดตัวชี้วัด เช่นเดียวกับเมืองในเอเชียอื่นๆ เช่นไทเป (#39) และฮ่องกง (#9) แล้วโซลยังได้คะแนนสูงในเรื่อง “อัตราการรีไซเคิลขยะ” เบอร์ลิน (#8) ทำคะแนนได้ดีในฐานะเมืองที่น่ าอยู่ด้วยศิลปะและวัฒนธรรมที่ แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับมาดริด (#13) เบอร์ลินอยู่ใน 10 อันดับแรกของความน่าอยู่เนื่ องจากค่าครองชีพและความง่ ายในการใช้ชีวิต ฮ่องกง (#9) ยังคงมีคะแนนดีเยี่ยมใน “อิสระทางเศรษฐกิจ” และ “ความเสี่ยงทางการเมือง เศรษฐกิจ และธุรกิจ” ซิดนีย์ (#10) เป็นเมืองเดียวที่ติดอันดับ 10 อันดับแรกของโลกที่ทำคะแนนสูงสุ ดในด้านสิ่งแวดล้อม ซิดนีย์ยังเป็นจุดหมายปลายทางอั นดับที่ 3 ในบรรดาเมืองสำหรับ “จำนวนนักศึกษาต่างชาติ”
ไฮไลท์อื่นๆ
- เมืองในอเมริกาเหนือลอสแองเจลิส (#12) บอสตัน (#25) ชิคาโก (#26) และซานฟรานซิสโก (#18) แข็งแกร่งในด้าน “ผู้ได้รับรางวัลในวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี” โดยทั้งหมดอยู่ใน 10 อันดับแรกในการวิจัยและพัฒนา โตรอนโต (#16) และแวนคูเวอร์ (#23) ได้คะแนนสูงจากตัวชี้วัดส่ วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน "เสรีภาพทางสังคมและความเท่าเที ยม" และ "ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากภั ยธรรมชาติ" - ซูริค (#15) และเจนีวา (#34) ได้รับคะแนนสูงในหมวดสิ่งแวดล้
อมเช่น "เมืองเขียว" และ "การปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์" ในขณะที่สต็อกโฮล์ม (#14) และโคเปนเฮเกน (#20) ได้คะแนนดีในด้าน "คุณภาพน้ำ" และ "อัตราพลังงานทดแทน" - ในบรรดาเมืองใหม่ๆ ใน GPCI เมลเบิร์น (#11) และ เฮลซิงกิ (#28) ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้
านสิ่งแวดล้อม ขณะที่ ดับลิน (#33) มีอัตราการเติบโตของจีดีพีสูง เทลอาวีฟ (#38) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่ โดดเด่น อยู่ในอันดับที่ 7 ในด้าน “สภาพแวดล้อมสำหรับสตาร์ทอัพ”